Wednesday, February 2, 2011

เรียนภาษาออนไลน์: เรียนอย่างไรให้ถูกและดี ตอนที่ 2

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาต่อกันจากตอนที่แล้วนะคะ ที่ค้างไว้ตรงที่ขณะนี้เร่ิมมีอาจารย์สอนภาษาบางท่านที่ได้ลองนำ Twitter ไปใช้กับการเรียนการสอนภาษาในชั้นเรียน เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนในชั้นได้ฝึกใช้ภาษากับเจ้าของภาษาด้วยค่ะ สำหรับภาคจบนี้ เราจะมาดูกันว่านอกจาก Twitter แล้ว คุณครู อาจารย์ และนักการศึกษาในศตวรรษที่ 21 นี้ เขาเริ่มประยุกต์ใช้เทคโนโลยีออนไลน์กันอย่างไรให้เหมาะกับการเรียนการสอนภาษานะคะ

ปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก อย่างเช่น มหาวิทยาลัย Emory ในมลรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สร้างคลังความรู้ไว้ในรูปแบบของบทเรียนภาษาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีนกลาง ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอาหรับ หรือกระทั่งภาษาที่คนไม่ค่อยรู้กันมากอย่าง ภาษาอินเดียนแดง เอาไว้บน iTunes U ซึ่งเป็นส่วนการศึกษาของร้านดนตรีออนไลน์ iTunes นั่นเอง บทเรียนภาษาเหล่านี้คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น มหาวิทยาลัย Emory ได้ประมาณเอาไว้ว่าตอนนี้มีผู้สนใจจากทั่วโลกได้มาดาวน์โหลดไฟล์บทเรียนภาษาต่าง ๆ ไปแล้วถึงกว่า 10 ล้านไฟล์ นับตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเป็นปีที่มหาวิทยาลัย Emory ได้เร่ิมสร้างคลังความรู้และให้บริการทาง iTunes U
บทเรียนที่เป็นที่นิยมอย่างสูง มีผู้เข้ามาดาว์นโหลดมากมาย ได้แก่บทเรียนที่มีทั้งส่วนของ audio และ video ผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างเหมาะสม บทเรียนเหล่านี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่บทเรียนที่ทางมหาวิทยาลัยสร้างไว้ให้คนภายนอกเลย หากแต่เป็นบทเรียนที่คณาจารย์ของทางมหาวิทยาลัยสร้างไว้เพื่อให้นักศึกษาในชั้นเรียนของตนเข้ามาเรียนรู้เพิ่มเติม เป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่างหาก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยคาดการณ์ว่า ผู้สนใจที่เข้ามาดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ไปใช้นั้นคงจะไม่ใช่ผู้ที่เรียนภาษาอย่างผิวเผิน แต่น่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาจากที่อื่นที่เรียนวิชาเหล่านี้อยู่แล้ว หรือกระทั่งอาจจะเป็นอาจารย์จากที่อื่น ๆ ที่จะต้องสอนวิชาเหล่านี้ด้วยก็เป็นได้
นอกเหนือไปจากการที่เทคโนโลยีพวก social media เข้ามามีบทบาทกับการเรียนการสอนโดยเปิดโอกาสให้ทั้งผู้เรียนและผู้สอนได้สามารถฝึกใช้ภาษากับเจ้าของภาษาแล้ว เทคโนโลยีอย่าง iTunes U ก็ยังสามารถทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงบทเรียนภาษาที่ใช้เสริมทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ทุกที่ ทุกแห่ง และทุกเวลาด้วย ซึ่งข้อดีข้อนี้ทำให้ผู้เรียนที่ไม่ค่อยมีเวลาเรียนให้ห้องเรียนจริงมากนักหรือต้องใช้เวลาในการเดินทางไปเรียนไกล ๆ สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ไปกับการเรียนภาษาจากบทเรียนออนไลน์แบบนี้ได้มากที่สุดค่ะ
อย่างไรก็ดี คณาจารย์ผู้สอนภาษาหลาย ๆ ท่านต่างเสริมว่า ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหล่านี้จะมีส่วนช่วยเสริมการเรียนการสอนภาษาอย่างมากในปัจจุบัน แต่ทว่าการเรียนภาษาในห้องเรียนจริงและการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงในต่างประเทศก็คงเป็นสิ่งที่เทคโนโลยียังไม่สามารถแทนที่ได้
ทีมงาน KDG Education และผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอีกหลาย ๆ ท่านก็ยังเห็นพ้องต้องกันว่า กุญแจสำคัญในการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ คือการใช้เทคโนโลยีให้ถูกต้องและเหมาะสมค่ะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มากที่สุด
ดังนั้นหากคุณผู้อ่านท่านใดที่สนใจจะนำเทคโนโลยีการศึกษาไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนภาษาให้กับนักเรียนนักศึกษาในห้องเรียนของท่าน โปรดติดต่อ KDG Education ได้ค่ะ ทางทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก KDG Education ยินดีที่จะช่วยให้คำปรึกษากับท่านเสมอค่ะ

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.